เปิดเทอมวันแรก

June 12, 2010

วันเสาร์ ก็เรียนภาคเสาร์อาทิตย์ วันนี้ได้เรียน OB (Organizational Behavior) และ สถิติสำหรับการบริหารและวิจัย

อยากจะบอกว่าวิชาแรกมันช่างเหมาะกับอารมณ์ในบริษัทที่กำลังทำงานอยู่ตอนนี้เป็นที่สุด เออ จริงๆเรียนไปนิดเดียวแล้วมันจะไปรู้ลึกอะไรขนาดนั้น

เพราะว่ามันเกี่ยวกับองค์กร องค์กรก็มีคน คนก็มีหลายประเภท การทำงานกับคนเป็นเรื่องที่น่าปวดหัว ทำยังไงถึงจะให้คนทำงานให้เราได้ ถ้าเราเป็นเจ้านาย แล้วถ้าเราเป็นลูกน้อง เราจะมีวิธ๊การไหนที่จะรับมือกับเจ้านายได้ แล้วเพื่อนรวมงานของเราละ ทำงานกันยังไง ไม่รู้ว่าคำถามพวกนี้จะหาคำตอบได้จากวิชา OB มั๊ย

..แต่หลังจากเรียน introduction แล้วก็ทำให้รู้สึกอยากเรียนมากๆ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ


Final Fantasy 13

June 7, 2010

เป็นอีกหนึ่งเกมที่ไม่ได้คาดหวัง เพราะอะไร ก็เพราะว่า FF นั้นเปลี่ยนไปมาก ทีมงานก็เปลี่ยน นักแต่งเพลงก็ไม่ใช่เทพอย่าง Nobuo แล้วหลังๆมานี้ technology การพัฒนาเกมของญี่ปุ่นก็ตามหลังฝั่งตะวันตกเสมอ โดยเฉพาะเรื่อง graphics, และ physics engine (ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น เรื่องยาวเลยละ สามารถเขียนเป็นอีก Post นึงได้เลย ไว้รอบหน้าละกัน)

เพราะฉะนั้นสิ่งที่หวังได้ก็คือ production gameplay เนื้อเรื่อง เพลง และโดยเลือด Fanboy ที่อยู่ในตัว ก็ไม่แปลกที่จะหาเกมนี้มาเล่นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

เปิดตัวด้วย CGI MOVIE ที่เป็นที่ยอมรับในวงการเกมว่าค่ายนี้เขาลงทุนกับตรงส่วนนี้มากจริงๆ ซึ่งมันเป็นจุดเด่นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว สำหรับคนที่เล่น FF มานานก็จะรู้ว่า FF เน้นเรื่อง Visual หรือว่าเรื่องของภาพมากๆ ในยุคก่อนๆสมัย SFC จะเห็นได้เลยว่า SquareSoft ในสมัยนั้นเป็นผู้นำทางด้าน pixel art อย่างแท้จริง ภาพที่ได้นั้นสวยอาจจะเรียกได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งในยุคของมันเลยทีเดียว แต่เมื่อเวลาล่วงเลยมา การทำ graphics ให้สวยนั้นมันอาศัยงานที่เยอะมากขึ้น เครื่องมือและ technology ที่ไปเร็วมาก ไม่ใช่ว่า designer จะเอาปากกามาจิ้มที่ละ Pixel แล้วมันจะออกมาสวย คือสำหรับ pixel art มันทำอะไรไปได้มากกว่านั้นไม่ได้แล้ว แต่ในโลกของ 3D สมัยนี้ยิ่งมี shader (programmable rendering pipeline) อุปกรณ์ที่ใช้ยิ่งซับซ้อนเข้าไปใหญ่ มันไม่ใช่ designer เท่านั้นที่จะต้องเก่ง แต่ programmer นั้นก็ต้องเก่งด้วย ซึ่งตรงนี้ผมมองว่าญึ่ปุ่นตามหลังตะวันตกอยู่มาก(programming นะ)

ส่วนตัวจึงคาดไว้เลยว่า graphics engine คงจะออกมาสู้ uncharted2 ไม่ได้แน่ๆ แล้วก็เป็นไปตามคาด คือ shader นั้นมันธรรมดามากๆ มี Normal map, bloom filter and etc ที่ธรรมดาเหลือเกิน น้ำก็ออกมาธรรมดา แต่ไปตกใจตรงที่ designer สามารถนำข้อจำกัดนี้มาสร้าง และชดเชยให้มันออกมาดีได้ เช่น animation ที่ลื่นไหล texture ที่ลงตัว คือ texture นี่มันก็ blend effect กันธรรมดานี่แหล่ะ แต่มันออกมาสวยมาก มีการใช้ billboard อยากมากมาย แต่มันก็ออกมาดูดี dynamic lighting ที่ programmer ไม่ได้ทำไว้ให้ ก็ไม่เป็นปัญหากับ team designer ก็เพราะว่า bake texture ออกมาขั้นเทพ จัดแสงขั้นเทพ มันแทบจะลบข้อด้อยของ graphics engine ออกไปจนหมดเลย เพราะว่าภาพรวมแล้วมันออกมาดูดีมาก

Gameplay อันนี้เป็นอย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่า FF นั้นมักจะเปลี่ยน gameplay ไปเรื่อยๆ ซึ่งภาคนี้ก็เปลี่ยนไปมากเช่น เช่นการใช้เวทย์มนต์ที่ไม่ได้ใช้ MP การจัด paradigm (formation) ของทีม การโจมตีศัตรูจนมันตกอยู่ในสภาพที่จะรับ damage เกิน 100% ก็จะมีเงื่อนไขต่างๆว่าทำยังไงถึงจะทำได้เร็วๆ บางทีสามารถที่ให้พุ่งไปถึง 999% เลย ถือว่าสนุกใช้ได้ครับ แปลกใหม่ดี ยังไงแฟนๆก็คงไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วว่า FF จะมี gameplay แบบเดิมโผล่มา ผมก็เป็นคนที่คิดแบบนั้นเหมือนกัน

เนื้อเรื่อง ส่วนปลีกย่อยทำออกมาได้ดีแนวการ์ตูนญี่ปุ่นคือเป็นการให้กำลังใจกัน การดำเนินชีวิต แนวคิดและมุมมองของแต่ละตัวละคร ซึ่งหาได้ยากจากเกมฝั่งตะวันตก ตรงนี้แหล่ะที่ทำให้ผมยังอยากเล่น RPG อยู่

เพลง ….. ไม่ชอบเลยอ่าาา.. :~

การดำเนินเนื้อเรื่องที่เป็นเส้นตรง ความรู้สึกของเกมว่ามันโดนตัดอะไรออกไปเยอะ และเหมือนจะรีบออกไปหน่อย เป็นข้อเสียใหญ่ของเกมนี้เลย ถ้ามันจะออกภาค XIII-2 ก็ไม่ต้องแปลกใจนะ เพราะดูจาก content แล้วมันเอาไปสร้างอะไรได้อีกเยอะ

*ประทับใจเป็นพิเศษคือความกว้างใหญ่ของโลก Pulse จากภาพข้างบนนี้ 🙂

ให้ 8.0/10 นะจ๊ะจุ๊บๆ FF XIII-2 ออกก็จะรีบไปซื้ออีกโดยไม่แคร์สื่อ เพราะว่าเกมนี้ผมคงจะเป็น fanboy มันไปจนตาย (แบ่งให้ uncharted นิดนึงนะ)


God of War 3

June 6, 2010

อะไหนๆก็ไหนๆแล้ว review แหลกเลย เกมต่อมาก็ต้องพี่เหม่งซ่า แห่ง God Of War ซึ่งดำเนินมาถึงภาคที่สามแล้วนั่น ซื้อแผ่นมือสองมาเล่นซะด้วยราคาที่ถูกลงเพียง 200 บาท

ด้วยชื่อเสียงของ Studio และภาคก่อนหน้านี้ รวมไปถึงข่าวต่างๆ ทำให้คาดหวังเอาไว้มากว่า ภาคนี้มันจะต้องสุดยอดครบทุกด้าน โดยเฉพาะ graphics ซึ่งได้ข่าวว่าทีมงานจาก naughty dog (Uncharted series) มารวมแจมด้วย โอ้วอย่างนี่พี่ท่านต้องมี render engine ขั้นเทพสินะ ส่วนเกมเพลอันนี้ต้องยอมรับว่าไม่ได้คาดหวังอะไรมากเลยเพราะเคยเล่นภาค 1 และ 2 นิดหน่อย ไม่ได้เล่นจนจบ ก็พอจะคาดเดาได้ว่าภาค 3 นั้นมันจะไปดีกว่าสองภาคแรกยังไงได้ เรื่องของระบบเสียงคงไม่ต้องหวังมากกับแนวเกมเทพพระเจ้าที่จะมีธีมออกมาแบบร้องกันภาษาอะไรก็ไม่รู้ ออกแนวๆ orchestra อลังการ แต่ไม่สามารถรับรู้ได้เนื่องจากใช้ลำโพงของ TV กระจอกสิ้นดีเลย

*สงสัยอยู่ว่ารูปข้างบนนี่มันน่าจะมากจากภาค 1 นะ

หลังจากลองเล่นแล้วผิดคาดอีกละ แต่ผิดคาดตรง graphics ที่ทางด้าน technical นั้นทำออกมาได้ดีจนรู้สึกได้ แต่ตัว content มันไม่ใช่ หรือไม่ก็มันเป็นธีมนรกสวรรค์ เล่นแล้วเข้าไม่ถึง มันเลยดูเกินๆขาดๆ จะบอกว่าอลังการก็ไม่ได้เพราะ texture บางจุดมันก็ด้านๆ แต่ lighting แบบ dynamic อันนี้ต้องชม programmer กะ environment designer ว่าทำออกมาได้ดีจริง แต่พอมาไปเจอ texture กากแล้วอารมณ์ก็สะดุดเอาง่ายๆ ทั้งๆที่หลายๆฉากมันไม่ได้กว้าง แต่ทำไม texture ยังคงกากได้ หากเปรียบเทียบกับ uncharted 2 ที่ render engine ก็ขั้นเทพเหมือนกัน คงบอกได้ว่าสองเกมนี้ทางด้าน render engine คงไม่แพ้กัน แต่ว่าการใช้ content(balance) ที่เหมาะสมอาจจะยังมีปัญหาสำหรับ GOW3

ตัวอย่างข้างบน จะเห็นว่าฉากนี้อลังการมาก เพราะในขณะที่เรากำลังสู้กันกับศัตรูของเรา เบื้องหลังนั้นเป็นยักษ์ที่กำลังบุก Mt. Olympus สามจุดนี้คือตัวเอก ศัตูรที่กำลังโดนเกี่ยวและยักษ์ข้างหลังดูดีมีรายละเอียดสูง แต่กำแพงที่ กับก้อนอิฐมันดูธรรมดาไปมั๊ย เข้าใจว่าเวลาเล่นคงไม่มีเวลามอง แต่สายตามันซุกซนมันก็ไปเห็นใส่เอาจนได้ ถึงกับ WTF กันเลยทีเดียว

เอาละมาดูกันอีก ข้างบนจะเห็นได้ว่าแสงเงาทำมาได้ดีมาก เงานั้นดูเนียนมาก ดูดีกว่าของ uncharted ซะอีก (ถ้าเป็น programmer ก็คงรู้ trade-off ว่าจะเอาสวย ก็ต้องเสียอะไรบางอย่างไป เพราะงั้นการที่ uncharted ออกมาดูเหมือนจะดีกว่าในภาพรวมนั้นมันก็อาจจะมาจากการที่ programmer ไปลดคุณภาพของเงาลงไปนั่นแหล่ะ) แต่จุดที่น่าดูคือตรงพื้น ก็เหมือนรูปก่อนหน้า คือพื้นนี้มันใช้ texture กากอีกแล้ว

เกมนี้สังเกตุเอาเองแล้วรู้ว่าไม่ได้ fix frame rate ทำให้บางครั้งมันก็วิ่งลื่นและบางครั้งก็ลดลงอย่างน่าใจหาย ต่างกับ uncharted ที่ fix ไว้ที่ 30 ส่วนตัวแล้วชอบแบบ fix มากกว่า คือไม่จำเป็นจะต้อง render ให้มัน smooth 60FPS หรือแถวๆนั้น แต่เอาให้ได้คงที มันจะรู้สึกว่า flow ของ graphics มันดูดีกว่า

Physics engine ไม่แน่ใจว่าได้มีการใช้ในเกมมั๊ย แต่ถ้าให้เดาก็คงไม่ได้ใช้ เพราะตัวเอกเวลาตกเหวไปกระทบกับอะไรแล้วช่างเป็น animation ยุค famicom เลยละ – -” แต่นะเกมมันไม่ได้เน้น Physics ไม่มีก็ไม่เสียหายอะไร

ส่วนเนื้อเรื่อง ภาคนี้เป็นภาคแรกที่ผมได้เล่น ทำให้รู้ว่าจริงๆแล้วเล่นเป็นตัวเลว หรือตัวดีกันแน่ไม่แน่ใจ (แต่อาจจะต้องกลับมานิยามก่อนนะว่าดีหรือร้ายมันคืออะไร) แต่ถ้าคิดตามอุดมคติแล้วตัวเอกนี่มันเลวขั้นเทพ ฆ่าแหลก โหด เลือดพุ่ง บอกตามตรงว่าเล่นแล้วรู้สึกเศร้ากับความรุนแรงที่ได้รับ อาจจะมีคำถามว่าเกมอื่นก็ฆ่าเหมือนกัน จะไม่ double standard ไปหน่อยมั๊ย คือต้องลองมาเล่นเกมนี้ดูนะ มันไม่ได้ฆ่ากันแบบตายก็หายไป แต่นี่เลือดพุ่ง จับหัวทุบกับพื้น เอาดาบเสียบแล้วบิด ดึง แทง เล่นไปมาแล้วไม่ชอบเลย มันรุนแรงไป แต่ graphics ทำมาดีนะเนี่ยตอนทรมานศัตรู..

(เวลาตายแล้วกด continue มันต้องไป load อะไรของมันใหม่เนี่ย อันนี้งง)

*มุมกล้องขั้นเทพครับ

เล่นจบแล้วประมาณ 8 ชม ให้ไป 7.75/10 เนี่ยนะ BAYONETTA ยังสนุกกว่าเลย เอาไงดี

ถ้าเกมนี้ออกมาแบบไม่มีตัวเปรียบเทียบมากนัก อาจจะจัดได้เลยว่าสุดยอดจริงๆ แต่ตัวผมเองก็ผ่าน game ระดับ AAA ที่มีจุดเด่นแตกต่างกันไปเช่น MSG4, Uncharted2, FF13 and etc อาจจะทำให้เวลาเล่นเกมนี้แล้วมันเหมือนไม่มีอะไรใหม่เลย คะแนนมันเลยออกมาเป็นแบบนั้น


BAYONETTA

June 5, 2010

อ้าวนี่มันผ่านมาจะเกือบสองเดือนแล้วเหรอ ไม่ได้เขียนเลยสิ ก็แน่ละเล่นย้ายไปอยู่บน Facebook กับ Twitter หมดแล้ว อีกไม่นานก็คงจะไม่ต้องมี Blog แล้วละมั้ง? ก็ขนาด Facebook ยังไม่อยากจะแวะเข้าไปดูเลย เพราะ update มันเยอะเหลือเกินขี้เกียจอ่าน …. เกี่ยวอะไรกับ BAYONETTA …

BAYONETTA ก็คือเกมแอชั่นมุมมองบุคคลที่สาม (ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกถึง God of War)  เป็นเกมที่ผมเห็นแล้วไม่คิดว่ามันจะสนุก เพราะจริงๆก็ไม่ได้ชอบเกมแนวนี้มากอะไรขนาดนั้น เพื่อนซื้อมาแล้วก็แนะนำให้เล่น ก็เลยเล่น เออปรากฏว่ามันสนุกมากเลย..

ในตัวเกมนั้นมีเนื้อเรื่องที่เหมือนจะออกแนวการ์ตูนญี่ปุ่น แต่ cut scene ที่ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจนั่นมันก็สร้างอารมณ์ร่วมได้ดีทีเดียว ออกจะแนวๆนิดๆ คือจะเป็น animation เต็มๆไปเลยก็ไม่ใช่ แต่มันเหมือนช่องแต่ละช่องในหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นที่สลับทยอยกันเอาอกมาแสดง ทำให้เหมือนอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่นั่นเอง ฉากต่อสู้ก็ประกอบไปด้วยเพลงที่เข้าจังหวะกับทีมของเกม + COMBO ที่ไม่อาจจะจำได้หมด(เลย set เป็น auto ซะ) แล้วก็ตัวละตรที่กระโดดเข้าหาศัตรูที่อยู่ใกล้ๆเอง จากนั้นก็มีท่า CLIMAX สำหรับจัดการศํตรู เป็นระบบการเล่นที่มีความต่อเนื่องมากๆ ทำให้รู้สึกว่าเล่นได้เรื่อยๆแล้วก็อยากจะเล่นไปต่ออีก ส่วนอยากอื่นก็จะเป็นเหมือนเกมแนวนี้ทั่วๆไป ก็มีการ upgrade อาวุธโดยแต้มที่ได้มาจากการกำจัดศัตรู มีซื้อไอเทมเติมพลัง บลาๆ

ตัวเองเป็นสาวแว่นวัยกลางคน ที่เน้นความเซ็กซี่เหลือเกิน เอาประมาณสู้ไปเต้นโตโยตี้ไปก็ยังได้ เนื้อเรื่องก็จะมีซับซ้อนเล็กน้อย + มุขฮาๆ ทำให้บรรยากาศของเกมไม่เครียดมาก แต่พอเวลาจะเครียดก็ใช้ได้เลยทีเดียว ใช้เวลาเล่นจบไม่นานมาก เพราะว่าใช้ mode combo auto ซึ่งมันเป็น easy mode ไปในตัว เล่นยังไงก็ไม่เคยต้องใช้ไอเทมเติมพลังเลย

เกมนี้ลงทั้ง PS3, XBOX360 ซึ่ง version ที่ได้เล่นคือ PS3 อยากบอกว่า PORT ได้ไม่ดีเลยในแง่ของ render engine เพราะ tearing (VSYNC) หลุดกันเกือบจะทุก FRAME

เกินความคาดหมาย ให้ 8.25/10 ครับ 🙂