ก่อนอื่นพูดเรื่อง qualification ก่อนดีกว่า ยอมรับว่า้เป็นคนหนึ่งที่ดูมหาวิทยาลัยที่จบของคนสมัครเป็นเกณฑ์ในการรับคนเข้าทำงาน แต่ไม่จำเป็นจะต้องเป็น ม.อันดับหนึ่ง อันดับสอง ไม่จำเป็นขนาดนั้น ขอ top 10 ก็โอเคแล้ว แต่ว่าถ้าหลุด top 10 ไป แต่มีประสบการณ์เพียบ มีงานที่เคยทำมาก่อน และสามารถแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนของความสามารถของตัวเองได้ ถ้าเป็นเด็กจบใหม่แล้วมี project ส่วนตัว personal achievement ดีๆ จะขอเลือกพวกนี้มากกว่าที่จะดูสถาบัน
แต่แน่นอนละว่า ถ้าจบจากที่เดียวกันแล้วเกรดพอๆกัน personal achievement จะสำคัญมากเลยทีเดียว
…. ต่อเรื่องสัมภาษณ์งาน รอบสุนัขหมู่(คนสัมภาษณ์หลายคนรุมคนสมัครคนเดียว) เริ่มต้นมาก็ต้องให้แนะนำตัวกันก่อน เริ่มที่ตัวผู้สัมภาษณ์เองและคณะ เป็นภาษาไทย แต่ให้คนสมัครแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ แน่นอนละเอาเปรียบกันก่อนเลย 🙂
การสัมภาษณ์ก็จะเริ่มจากการถามถึงที่มาที่ไป ว่าทำ project จบอะไร ในกรณีเด็กจบใหม่ ส่วนคนมีประสบการณ์แล้วเราก็ถามว่าเคยทำบริษัทอะไร แล้วที่นั่นคุณได้ทำอะไรไปบ้าง ทำไมถึงย้าย แล้วคิดว่าบริษัทเรามีดีอะไรจึงอยากมาทำงานด้วย บลาๆๆๆๆ
แล้วก็คุยกันถึงผลทดสอบ ตรงนี้ก็จะเริ่มได้ feeling แล้วละว่าคนที่มาสมัครนี่โอเคขนาดไหน จากนั้นก็ให้เขาถามกลับบ้าง ตอนนี้อยากรู้อะไรถามมา
เท่าที่เคยเจอมา สามารถแบ่ง feeling ที่ว่าได้ตามต่อไปนี้
- เชี่xแxx่ง เก่งสาxอะ รับเลย
- อืม…ก็เก่งดี น่าจะทำงานได้ ลองดูก่อนละกัน
- อืม…ก็เก่งดี แต่จะทำงานได้จริงๆรึเปล่านะ
- อืม… มึนๆ งงๆ เดี๋ยวรอดูคนต่อไปก่อนนะ
- อืม… ไม่น่าเรียกมาเลย
- เอวัง…
ได้ข่าวว่าเจอครบ set ทั้ง 6 แบบ
แบบแรกยังไม่มีนะ
ง่ะ เม้นไปเมื่อเช้า หายไปไหนแล้วอ่ะ
ทดสอบอีกรอบ ได้ป่าวเนี่ย
ได้ดิ เข้ามาสามแล้วเนี่ย
a wang